Browse By

Category Archives: ฟุตบอล

สโมสร อินเตอร์ ไมอามี วิ่งเต้นหาเซร์คีโอ เรกีลอน

กระแสการเสริมทัพของสโมสร อินเตอร์ ไมอามี ยังคงเป็นประเด็นร้อนในวงการฟุตบอลโลก หลังจากมีรายงานจากสื่อสเปนและอเมริกาว่า ทีมดังจากเมเจอร์ลีก ซอกเกอร์ (MLS) ที่มีลิโอเนล เมสซี่เป็นซูเปอร์สตาร์นำทัพ กำลังพยายามเดินหน้าคว้าตัว เซร์คีโอ เรกีลอน แบ็กซ้ายชาวสเปนของท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ มาร่วมทีมในอนาคตอันใกล้ โดยแหล่งข่าวยืนยันว่า อินเตอร์ ไมอามี กำลังอยู่ในขั้นตอนของการ “วิ่งเต้น” และเจรจากับต้นสังกัดในพรีเมียร์ลีก เพื่อเปิดทางสู่ดีลครั้งนี้ เรกีลอน วัย 27 ปี ถือเป็นหนึ่งในแบ็กซ้ายที่มีชื่อเสียงจากสเปนซึ่งเคยผ่านประสบการณ์กับสโมสรใหญ่อย่างเรอัล มาดริด และเซบีย่า ก่อนจะย้ายมาค้าแข้งในอังกฤษกับท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ในปี 2020 ด้วยค่าตัวประมาณ 30 ล้านยูโร เขาเคยได้รับการคาดหวังว่าจะกลายเป็นกำลังหลักระยะยาวของทีมในยุคของโชเซ่ มูรินโญ่ แต่หลังจากการเปลี่ยนแปลงผู้จัดการทีมหลายครั้ง บทบาทของเขากลับลดลงเรื่อย ๆ จนแทบไม่ได้รับโอกาสลงสนามในฤดูกาลนี้ สื่อสเปนอย่าง Marca รายงานว่า

โรดรีโก้ ยืนยันว่าเขาไม่เคยมีความตั้งใจจะย้ายออกจากถิ่นซานติอาโก เบร์นาเบว

กระแสข่าวลือเรื่องอนาคตของ โรดรีโก้ โกเอส ปีกชาวบราซิลของเรอัล มาดริด ถูกพูดถึงอย่างต่อเนื่องในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากมีรายงานจากสื่อบางแห่งว่าเจ้าตัวอาจไม่พอใจกับสถานการณ์ในทีมและกำลังพิจารณาย้ายออกในอนาคตอันใกล้ อย่างไรก็ตาม ดาวเตะวัย 24 ปีได้ออกมาให้สัมภาษณ์ล่าสุดเพื่อยุติข่าวลือทั้งหมด โดยยืนยันอย่างชัดเจนว่าเขาไม่เคยมีความตั้งใจจะย้ายออกจากถิ่นซานติอาโก เบร์นาเบว แฟนบอล และยังคงมีความสุขกับชีวิตค้าแข้งในสีเสื้อราชันชุดขาว “ผมอยู่กับสโมสรที่ดีที่สุดในโลก และผมไม่มีเหตุผลใด ๆ ที่จะต้องย้ายไปที่อื่น” โรดรีโก้ กล่าวระหว่างการให้สัมภาษณ์กับสื่อสเปนหลังเกมล่าสุด “ผมรักที่นี่ รักเพื่อนร่วมทีม รักแฟนบอล และผมรู้สึกว่าผมยังสามารถพัฒนาได้อีกมากภายใต้สโมสรแห่งนี้” คำพูดของเขาไม่เพียงทำให้แฟนบอลโล่งใจ แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงความภักดีและความมุ่งมั่นของนักเตะหนุ่มรายนี้ที่มีต่อเรอัล มาดริด ในช่วงต้นฤดูกาลที่ผ่านมา โรดรีโก้ตกเป็นข่าวกับหลายสโมสรในพรีเมียร์ลีก เช่น ลิเวอร์พูล และแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่มีรายงานว่าพร้อมทุ่มเงินก้อนโตเพื่อดึงตัวเขาไปร่วมทีม หลังจากที่เจ้าตัวต้องถูกขยับไปเล่นหลายตำแหน่งในระบบใหม่ของคาร์โล อันเชล็อตติ ซึ่งบางครั้งทำให้เขาไม่ได้ลงเล่นในตำแหน่งถนัด อย่างไรก็ตาม นักเตะยืนยันว่าเขาไม่เคยรู้สึกอึดอัดกับบทบาทในทีม และพร้อมปรับตัวเพื่อช่วยสโมสรให้ประสบความสำเร็จ ตั้งแต่ย้ายจากซานโตสในบ้านเกิดบราซิลมาสู่ถิ่นเบร์นาเบวเมื่อปี 2019 ด้วยค่าตัวราว 45

โจชัว เซิร์กเซ่ กองหน้าสำรอง แมนฯ ยูไนเต็ด เตรียมพิจารณาย้ายออกจาก โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด

กระแสข่าวล่าสุดจากเกาะอังกฤษกำลังได้รับความสนใจจากแฟนบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังมีรายงานว่า โจชัว เซิร์กเซ่ กองหน้าดาวรุ่งชาวดัตช์ของทีม กำลังพิจารณาอนาคตของตัวเองอย่างจริงจัง และอาจตัดสินใจย้ายออกจากถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ดในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะเดือนมกราคมหรือไม่ก็ซัมเมอร์ปีหน้า หากสถานการณ์ของเขาในทีมยังไม่ดีขึ้น ข่าวนี้สร้างความเคลื่อนไหวไม่น้อยในหมู่แฟนบอล เพราะเซิร์กเซ่ถือเป็นผู้เล่นที่มีพรสวรรค์สูงและถูกมองว่าเป็นหนึ่งในกองหน้าที่มีศักยภาพจะเติบโตเป็นนักเตะระดับท็อปได้ในอนาคต โจชัว เซิร์กเซ่ ย้ายมาร่วมทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา หลังโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นกับโบโลญญ่าในศึกกัลโช่ เซเรีย อา โดยยิงได้มากกว่า 10 ประตูในฤดูกาลเดียวและมีส่วนช่วยให้ทีมจบครึ่งบนของตาราง การมาของเขาถูกมองว่าเป็นการเสริมกำลังในแนวรุกที่ดี เนื่องจากทีมของเอริก เทน ฮาก ต้องการเพิ่มตัวเลือกในตำแหน่งกองหน้าเพื่อแบ่งเบาภาระของราสมุส ฮอยลุนด์ ดาวยิงชาวเดนมาร์กที่ต้องรับภาระหนักตั้งแต่ย้ายมา อย่างไรก็ตาม หลังจากเปิดฤดูกาลใหม่มาได้ไม่กี่เดือน สถานการณ์ของเซิร์กเซ่กลับไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง เขาได้รับโอกาสลงสนามน้อยมาก ส่วนใหญ่เป็นเพียงตัวสำรองช่วงท้ายเกม หรือบางครั้งก็ไม่มีชื่ออยู่ในทีมชุดใหญ่เลยแม้แต่นัดเดียว สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากการที่เทน ฮากยังคงเชื่อมั่นในระบบเดิม และต้องการให้ฮอยลุนด์พัฒนาตัวเองต่อเนื่องในฐานะศูนย์หน้าหลัก ขณะเดียวกันยังมีมาร์คัส แรชฟอร์ด และอเลฮานโดร การ์นาโช่ ที่ถูกขยับไปยืนในตำแหน่งกองหน้าได้เช่นกัน ทำให้โอกาสของเซิร์กเซ่แทบจะไม่มี แม้จะเพิ่งอายุ

ศึก กัลโช่ เซเรีย อา 6 นัดแรก ยังไม่มีกุนซือคนใดถูกปลด

ศึกกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ฤดูกาลใหม่ได้เปิดฉากไปแล้วกว่า 6 นัด และสิ่งที่น่าสนใจที่สุดในเวลานี้คือการที่ยังไม่มีกุนซือคนใดถูกปลดออกจากตำแหน่งเลย ซึ่งถือเป็นเรื่องที่หาได้ยากในวงการฟุตบอลอิตาลีที่ขึ้นชื่อเรื่องความเข้มข้นและความกดดันในตำแหน่งผู้จัดการทีมเสมอ ความอดทนของบอร์ดบริหารแต่ละสโมสรในซีซั่นนี้จึงถูกจับตามองอย่างมาก เพราะปกติแล้วหลังผ่านไปเพียงไม่กี่สัปดาห์ มักจะมีข่าว “เก้าอี้ร้อน” ของโค้ชบางรายออกมาให้เห็นเป็นประจำ แต่ปีนี้กลับไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อมองย้อนไปในอดีต ลีกอิตาลีถือเป็นหนึ่งในลีกที่มีการเปลี่ยนแปลงกุนซือบ่อยที่สุดในยุโรป ฤดูกาลที่แล้วเพียงฤดูกาลเดียวมีถึง 11 สโมสรจากทั้งหมด 20 ทีมที่มีการเปลี่ยนหัวหน้าโค้ชระหว่างทาง บางทีมถึงกับเปลี่ยนถึงสองครั้ง เช่น ซามพ์โดเรีย หรือเวโรน่า ที่อยู่ในกลุ่มหนีตกชั้นจนต้องหาผู้มากอบกู้สถานการณ์แบบฉุกเฉิน แต่ในฤดูกาลนี้ สถานการณ์กลับสงบกว่าที่เคยเป็นมา แม้จะมีบางทีมที่ผลงานไม่ดีเท่าที่ควร แต่ผู้บริหารกลับยังคงให้โอกาสผู้จัดการทีมได้ทำงานต่อไป การที่ 6 นัดแรกของกัลโช่ เซเรีย อาผ่านไปโดยไม่มีการปลดโค้ชนั้น ถือเป็นสัญญาณของความเปลี่ยนแปลงในวัฒนธรรมการบริหารทีมของอิตาลี ซึ่งในช่วงหลังหลายสโมสรเริ่มให้ความสำคัญกับ “ความต่อเนื่อง” มากกว่าการเปลี่ยนแปลงอย่างเร่งด่วน แนวคิดนี้ได้รับอิทธิพลมาจากทีมอย่างนาโปลีและเอซี มิลาน ที่ประสบความสำเร็จในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเพราะเลือกจะยืนหยัดเคียงข้างโค้ชในยามที่ฟอร์มตกแทนที่จะปลดออก เริ่มกันที่อินเตอร์ มิลาน

ลีซานโดร มาร์ตีเนซ จะสามารถกลับมาลงสนามได้ภายในปี 2025 นี้

ในช่วงเวลาที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีรายงานจากสื่ออังกฤษว่า สโมสรยังคงเชื่อมั่นว่า ลีซานโดร มาร์ตีเนซ กองหลังจอมบู๊ทีมชาติอาร์เจนตินา จะสามารถกลับมาลงสนามได้อีกครั้งภายในปี 2025 นี้ หลังจากที่ต้องพักยาวเพราะอาการบาดเจ็บซ้ำบริเวณเท้า ซึ่งรบกวนเขามาตั้งแต่ปลายฤดูกาลก่อน ลีซานโดร มาร์ตีเนซ นับตั้งแต่ย้ายมาจากอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม เมื่อปี 2022 ภายใต้การนำของเอริก เทน ฮาก เขาก็กลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นคนสำคัญของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดทันที ด้วยสไตล์การเล่นที่ดุดัน กล้าปะทะ และเต็มไปด้วยหัวใจนักสู้ เขาเป็นกองหลังที่แฟนบอลหลงรัก เพราะแม้จะมีรูปร่างไม่สูงมากเมื่อเทียบกับเซนเตอร์ฮาล์ฟทั่วไป แต่ทัศนคติและจิตวิญญาณในสนามของเขาใหญ่กว่าร่างกายหลายเท่า เขาเล่นด้วยความมุ่งมั่นในทุกนาที และมักถูกยกให้เป็นผู้นำในแนวรับ แม้จะเพิ่งย้ายมาค้าแข้งในอังกฤษไม่นาน อย่างไรก็ตาม เส้นทางของมาร์ตีเนซในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ดไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ หลังจากมีอาการบาดเจ็บที่กระดูกฝ่าเท้าซ้ำในฤดูกาล 2023-2024 ซึ่งทำให้เขาต้องเข้ารับการผ่าตัดและพักยาวเป็นเวลาหลายเดือน การบาดเจ็บดังกล่าวไม่เพียงส่งผลต่อเกมรับของทีมเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อความมั่นใจโดยรวมของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดอีกด้วย เพราะตั้งแต่เขาหายไป ทีมของเทน ฮากก็เสียประตูมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และขาดผู้นำในแนวรับที่คอยคุมจังหวะเกม

เดแคลน ไรซ์ ลงซ้อมกับทีมชาติอังกฤษได้อย่างไร้ปัญหา แม้มีอาการบาดเจ็บ

ท่ามกลางความกังวลของแฟนบอลอาร์เซน่อลและทีมชาติอังกฤษเกี่ยวกับอาการบาดเจ็บของ เดแคลน ไรซ์ ล่าสุดมีข่าวดีออกมาจากแคมป์ทีมชาติเมื่อมีรายงานยืนยันว่า มิดฟิลด์ตัวรับวัย 26 ปี สามารถลงซ้อมร่วมกับเพื่อนร่วมทีมได้อย่างไร้ปัญหา และมีแนวโน้มว่าจะพร้อมลงสนามช่วย “สิงโตคำราม” ในเกมสำคัญช่วงพักเบรกทีมชาติที่กำลังจะถึงนี้ ข่าวดังกล่าวสร้างความโล่งใจให้กับทั้งมิเกล อาร์เตต้า และแกเร็ธ เซาธ์เกต ที่ต่างต้องพึ่งพาความแข็งแกร่งของไรซ์ในแดนกลาง ก่อนหน้านี้ เดแคลน ไรซ์ ถูกถอดออกจากสนามในเกมพรีเมียร์ลีกนัดล่าสุดที่อาร์เซน่อลพบกับแอสตัน วิลล่า หลังมีอาการเจ็บบริเวณกล้ามเนื้อท้อง ซึ่งสร้างความวิตกให้กับแฟนบอลไม่น้อย เพราะเขาคือผู้เล่นคนสำคัญที่สุดในระบบการเล่นของอาร์เตต้าในฤดูกาลนี้ การที่เขาได้รับบาดเจ็บแม้เพียงเล็กน้อยก็ส่งผลต่อสมดุลของทีมโดยตรง อย่างไรก็ตาม หลังจากเข้ารับการตรวจและพักฟื้นเพียงไม่กี่วัน อาการของเขาก็ฟื้นตัวดีเกินคาด และล่าสุดสื่ออังกฤษรายงานตรงกันว่า ไรซ์สามารถกลับมาซ้อมเต็มรูปแบบกับทีมชาติได้แล้วโดยไม่มีอาการเจ็บแต่อย่างใด การกลับมาของเขาในครั้งนี้ไม่เพียงแค่เป็นข่าวดีสำหรับทีมชาติเท่านั้น แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงความฟิตและความเป็นมืออาชีพของเจ้าตัว เพราะตั้งแต่ย้ายจากเวสต์แฮม ยูไนเต็ด มาร่วมทีมอาร์เซน่อลด้วยค่าตัวมหาศาลกว่า 105 ล้านปอนด์ ไรซ์ก็แสดงให้เห็นถึงมาตรฐานการเล่นและสภาพร่างกายที่ยอดเยี่ยม เขาลงสนามในทุกนัดสำคัญ และแทบไม่เคยมีปัญหาบาดเจ็บรบกวน แม้จะต้องเล่นเกมต่อเนื่องทั้งในลีกและฟุตบอลยุโรป ในแคมป์ทีมชาติอังกฤษที่เซนต์จอร์จส์ พาร์ก บรรยากาศการฝึกซ้อมเต็มไปด้วยความผ่อนคลาย แต่ในขณะเดียวกันก็ยังคงเข้มข้น

เบนฟิก้าประกาศตั้ง มูรินโญ่ คุมถึงปี 2027

การประกาศของสโมสรเบนฟิก้าในการแต่งตั้ง โชเซ่ มูรินโญ่ เป็นหัวหน้าโค้ชคนใหม่จนถึงปี 2027 ได้สร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั่ววงการฟุตบอลโปรตุเกสและยุโรป มูรินโญ่ไม่ใช่เพียงกุนซือธรรมดา แต่เป็นตำนานที่เคยสร้างชื่อเสียงระดับโลกมาแล้วจากการคว้าแชมป์กับหลายสโมสรยักษ์ใหญ่ การกลับสู่บ้านเกิดของเขาจึงมีความหมายมากกว่าการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งโค้ช แต่มันคือการเริ่มต้นบทใหม่ของเรื่องราวที่เชื่อมโยงกับอดีต ย้อนกลับไปในปี 2000 มูรินโญ่เคยได้รับโอกาสคุมทีมเบนฟิก้า แต่เวลานั้นเขายังเป็นโค้ชที่ไร้ประสบการณ์มากนัก เขาอยู่ในตำแหน่งเพียงไม่กี่เดือนก่อนจะลาออก การกลับมาครั้งนี้จึงเป็นเหมือนการปิดวงกลมชีวิต เขาไม่ได้กลับมาในฐานะผู้มาใหม่ แต่กลับมาในฐานะยอดโค้ชที่เคยคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก, พรีเมียร์ลีก, กัลโช่ เซเรีย อา และลาลีกา การที่เบนฟิก้าเลือกมอบสัญญายาวถึงปี 2027 จึงเป็นการแสดงออกถึงความเชื่อมั่นในบารมีและประสบการณ์ของเขา 2. เหตุผลที่เบนฟิก้าเลือกมูรินโญ่ เบนฟิก้าเป็นหนึ่งในสโมสรที่ใหญ่ที่สุดของโปรตุเกส แต่ตลอดหลายปีที่ผ่านมา พวกเขามักประสบปัญหาในการสร้างความต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเวทียุโรป แม้จะประสบความสำเร็จในลีกภายในประเทศ แต่พวกเขายังไม่สามารถกลับไปสู่การคว้าแชมป์ยุโรประดับเมเจอร์ได้อีกนับตั้งแต่ทศวรรษ 1960 การเลือกมูรินโญ่คือการส่งสัญญาณชัดเจนว่าทีมต้องการกลับไปอยู่ในระดับสูงสุด เขามีประสบการณ์คุมทีมใหญ่และรู้วิธีจัดการแรงกดดันระดับทวีป อีกทั้งยังมีชื่อเสียงที่จะช่วยดึงดูดนักเตะคุณภาพเข้าสู่ทีมได้ง่ายขึ้น ผู้บริหารมองว่า มูรินโญ่คือคนที่สามารถยกระดับมาตรฐานของสโมสร และสร้างความสมดุลระหว่างการพัฒนาดาวรุ่งกับการลุ้นความสำเร็จในทันที การตัดสินใจครั้งนี้ยังสะท้อนถึงความมั่นใจว่ามูรินโญ่จะเป็นผู้นำที่สร้างบรรยากาศแห่งความเป็นทีม และปลูกฝังทัศนคติแห่งชัยชนะ

เจมี่ วาร์ดี้ ตรวจอาการกล้ามเนื้อล้า

เจมี่ วาร์ดี้ ไม่ได้เป็นเพียงแค่ศูนย์หน้าของเลสเตอร์ ซิตี้ แต่เขาคือสัญลักษณ์ที่บอกเล่าเรื่องราวความพยายาม ความมุ่งมั่น และการก้าวข้ามอุปสรรคในวงการฟุตบอลอังกฤษ เส้นทางของเขาเริ่มจากการเล่นลีกสมัครเล่น ก่อนจะไต่เต้าสู่การเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกอย่างน่ามหัศจรรย์ในฤดูกาล 2015/16 การยิงประตูอย่างต่อเนื่องและการทำลายสถิติ “ยิงประตูต่อเนื่อง 11 นัด” ได้ทำให้ชื่อของเขาเป็นตำนานทันที แม้ปัจจุบันอายุจะเข้าสู่ 37 ปี แต่ความสำคัญของวาร์ดี้ต่อเลสเตอร์ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง เขาเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักเตะรุ่นใหม่ เป็นผู้นำทั้งในและนอกสนาม อย่างไรก็ตาม อายุที่มากขึ้นก็มาพร้อมความท้าทายทางร่างกาย ปัญหากล้ามเนื้อล้าและความฟิตไม่เต็มร้อยกลายเป็นสิ่งที่ต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด ข่าวการตรวจอาการกล้ามเนื้อล้าของเขาจึงเป็นประเด็นใหญ่ เพราะมันสะท้อนถึงเส้นแบ่งบาง ๆ ระหว่างความเป็นตำนานที่ยังเล่นได้กับร่างกายที่ไม่อาจฝืนธรรมชาติได้ตลอดไป 2. อาการกล้ามเนื้อล้า: ความเสี่ยงของนักเตะวัยเก๋า สำหรับนักฟุตบอลอาชีพ อาการกล้ามเนื้อล้า (muscle fatigue) ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่มันมีผลต่อประสิทธิภาพการเล่นอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในนักเตะที่ผ่านการใช้งานร่างกายอย่างหนักและยาวนาน อาการนี้เกิดจากการใช้งานกล้ามเนื้อซ้ำ ๆ จนเส้นใยเกิดความอ่อนล้า การฟื้นฟูช้าลง และบางครั้งอาจนำไปสู่การบาดเจ็บเรื้อรังได้ ในกรณีของเจมี่ วาร์ดี้

โชเซ่ มูรินโญ่ เตรียมตัวคุมทีม เบนฟิก้า

การกลับมาคุมทีมในบ้านเกิดของ โชเซ่ มูรินโญ่ กับสโมสร เบนฟิก้า ถือเป็นจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ในชีวิตการทำงานของกุนซือวัย 62 ปี ที่มีเส้นทางอาชีพเต็มไปด้วยเกียรติยศมากมาย การกลับไปยังโปรตุเกสครั้งนี้ไม่ใช่เพียงการย้ายทีมธรรมดา แต่ยังมีความหมายเชิงสัญลักษณ์ในฐานะการกลับคืนสู่รากเหง้า หลังจากที่เขาออกเดินทางไปสร้างชื่อเสียงทั่วฟุตบอลยุโรป มูรินโญ่เคยเริ่มต้นคุมทีมชุดใหญ่ครั้งแรกที่เบนฟิก้าในปี 2000 แต่ช่วงเวลานั้นสั้นและเต็มไปด้วยแรงกดดัน อย่างไรก็ตาม การจากไปในวันนั้นกลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นของ “เดอะ สเปเชียล วัน” บนเวทียุโรป ไม่ว่าจะเป็นการสร้างความยิ่งใหญ่กับปอร์โต้ คว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2004 การไปคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกกับเชลซี 2 สมัย รวมถึงการคว้าทริปเปิลแชมป์กับอินเตอร์ มิลาน การกลับมาครั้งนี้จึงมีความหมายมากกว่าการคุมทีมใหม่ แต่มันคือการย้อนกลับไปยังจุดเริ่มต้นเพื่อเขียนบทใหม่ในบ้านเกิด บรรดาแฟนบอลเบนฟิก้าและชาวโปรตุเกสจำนวนมาก ต่างรอคอยที่จะได้เห็นเขาพาทีมก้าวขึ้นสู่ความยิ่งใหญ่อีกครั้ง โดยเชื่อว่าประสบการณ์และบารมีของมูรินโญ่คือสิ่งที่ทีมต้องการในเวลานี้ 2. ความสัมพันธ์ระหว่างมูรินโญ่กับ เบนฟิก้า ในอดีต ย้อนกลับไปในปี 2000 มูรินโญ่เพิ่งก้าวสู่เส้นทางกุนซือมืออาชีพอย่างเต็มตัว เขาได้รับโอกาสจากเบนฟิก้า ซึ่งในเวลานั้นยังไม่ได้มองว่าเขาจะกลายเป็นยอดโค้ชระดับโลก

ซีอีโออตาลันต้า ยันทุกคนอ้าแขนรอรับ ลุคแมน

การกลับมาของ อเดโมลา ลุคแมน ที่อตาลันต้าไม่ใช่เพียงการกลับมาของนักฟุตบอลคนหนึ่ง แต่เป็นการกลับมาของสัญลักษณ์แห่งความมุ่งมั่นและพลังใจ หลังจากที่เขาพาทีมคว้าแชมป์ยูโรปา ลีก ได้สำเร็จในฤดูกาลที่ผ่านมา ชื่อเสียงของเขาก็โด่งดังขึ้นไปอีกระดับ สิ่งที่แฟนบอลต่างพูดถึงไม่ใช่เพียงความสามารถในการยิงประตูเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงบุคลิกที่ไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรค การกลับมาครั้งนี้ถูกยืนยันโดยซีอีโออตาลันต้า ที่ออกมาเปิดเผยว่าทุกคนในสโมสรตั้งแต่ผู้บริหาร โค้ช เพื่อนร่วมทีม ไปจนถึงแฟนบอลต่างรอคอยเขาอย่างใจจดใจจ่อ สำหรับสโมสรที่ยึดมั่นในค่านิยมการพัฒนานักเตะและความเป็นครอบครัว การต้อนรับลุคแมนกลับมาจึงเต็มไปด้วยบรรยากาศอบอุ่น สิ่งนี้ยังสะท้อนให้เห็นว่าอตาลันต้ามีความสามารถในการรักษานักเตะคุณภาพให้อยู่กับทีมต่อไป ทั้ง ๆ ที่หลายสโมสรใหญ่ในยุโรปกำลังจับตามอง ความหมายเชิงจิตวิญญาณนี้อาจมีคุณค่ามากกว่าค่าตัวใด ๆ เพราะมันคือความต่อเนื่องและเสถียรภาพที่สโมสรต้องการ 2. เส้นทางค้าแข้ง: จากอังกฤษสู่จุดสูงสุดในอิตาลี เส้นทางชีวิตนักเตะของลุคแมนไม่เคยโรยด้วยกลีบกุหลาบ เขาเริ่มต้นที่ชาร์ลตัน แอธเลติก ก่อนถูก เอฟเวอร์ตัน ดึงตัวไป แต่ไม่สามารถแจ้งเกิดได้เต็มที่ในพรีเมียร์ลีก เขาต้องเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบาก ทั้งการถูกปล่อยยืมตัวไปเล่นที่แอร์เบ ไลป์ซิก และต่อด้วยฟูแล่ม ซึ่งแม้จะได้ประสบการณ์แต่ก็ยังไม่อาจทำให้เขาก้าวขึ้นเป็นตัวหลักในลีกอังกฤษ จุดเปลี่ยนเกิดขึ้นเมื่ออตาลันต้าเซ็นสัญญากับเขาในปี 2022 ลุคแมนสามารถปรับตัวเข้ากับระบบแท็กติกของ จาน ปิเอโร่